อนิเมชั่นออกใหม่ ถือได้ว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราผ่อนคลายจากความเครียด มาดูกันว่าจะมีอนิเมชั่นเรื่องใดที่น่าสนใจบ้าง?
อนิเมชั่นออกใหม่ ถ้าพูดถึงสถานการณ์ในช่วงนี้ หลาย ๆ คน ก็คงจะรู้ดีว่า สถานการณ์ยังคงน่ากังวลอยู่มาก ถึงแม้จะมีอะไรหลาย ๆ อย่างที่เข้ามาช่วยให้เบาลง แต่ก็อย่างที่หลาย ๆ คน ต้องการก็คือการกลับมาใช้ชีวิต โดยปกติ ก่อนที่จะมีโรคภัยต่าง ๆ เข้ามา หลายคนจึงได้หาสิ่งที่เยียวยาจิตใจ หรือแม้แต่การกลับมาดูแล สุขภาพตัวเองมากขึ้น
เพื่อให้สุขภาพแข็งแรง พร้อมเผชิญหน้า กับสิ่งต่าง ๆ รอบ ๆ ตัว ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิต โดยทั่วไป หรือ จะเป็นการทำงาน เพื่อที่จะให้กลับมาหาลูกค้า หรือติดต่องานตามสถานที่ต่าง ๆ ได้ และมีสิ่งหนึ่งที่สามารถเยียวยา ได้ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ นั่นก็คือการ์ตูนอนิเมชั่นต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร หลายคนก็ต้องรู้จักอย่างน้อย สักหนึ่งเรื่อง ถ้าได้ลองถาม หรือลองพูดคุยกันดู ต้องบอกได้สัก 1 – 2 เรื่อง อย่างแน่นอน อนิเมชั่นดีดี อนิเมชั่นที่ตราตรึงหัวใจ อนิเมชั่นหนึ่งดวงใจ เราไปดูกันดีกว่า ว่ามีอนิเมชั่นอะไรน่าสนใจบ้าง และออกใหม่บ้าง
อนิเมชั่นออกใหม่ กับเรื่องราวศึกชี้ชะตาที่เกิดจากการแตกหักครั้งสำคัญ ที่ดัดแปลงมาจาก Comic สุดเจ๋ง จะเป็นอนิเมชั่นเรื่องใด?
ต้องขอเกริ่นก่อนเลยว่า อนิเมชั่นเรื่องนี้ได้สร้างขึ้นมา เพื่อแฟน ๆ ของ “ฮีแมน” โดยเฉพาะเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นสำหรับ ใครที่ยังไม่เคยดูมาก่อน หรือไม่ได้รู้จักเรื่องราว ของฮีแมนมาบ้าง อาจจะดูไม่รู้เรื่องเท่าไรนัก ตัวอนิเมชั่นก็มีความพยายาม ที่จะสร้างฐานแฟนคลับ และคนดูรุ่นใหม่ ๆโดยภาคนี้จะมีการ ทำใหม่ทั้งหมด
ทั้งตัวละครและวิธีการดำเนินเรื่อง ที่จะแตกต่าง ภาคก่อน ๆ โดยสิ้นเชิง และภาคนี้จะมีชื่อว่า Master of the Universe Revelation Netflix บอกเล่าถึงเรื่องราว การต่อสู้ของฮีแมน กับสเกลเลทอร์ ที่ดำเนินมาถึงจุดแตกหักครั้งสำคัญ การเปิดเผยตัวตนของฮีแมน แล้วที่สำคัญที่สุดคือ การเดินทางผจญภัยของทีล่า โดยนางเอกของเรื่องนี้
จะได้รับบทบาทที่เด่น เป็นตัวเอกในการเดินเรื่อง ที่จะต้องหาทางกอบกู้ อีเธอร์เนียให้พ้นจากหายนะต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น ถือเป็นการขยายเรื่องราว และหาทางเดินไปข้างหน้า ของจักรวาลฮีแมนที่น่าสนใจ และอาจจะเป็นการปิดตำนานของฮีแมน หลังจากนี้ด้วยเหมือนกัน สำหรับงาน CG กราฟฟิก
อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ของยุคนี้กันเลยที่เดียว สำหรับการ์ตูนเด็ก จากอเมริกา แม้ว่าลายเส้น และงานภาพจะแข็งกระด้างไปหน่อย แต่ก็อาจเพราะต้องการเก็บ เอกลักษณ์ของซีรีส์นี้เอาไว้ ถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง ส่วนฉากต่อสู้ในเรื่องนี้ ก็อยู่ในระดับกลาง ๆ ถือเป็น อนิเมชั่นน่าสนใจ มากกว่าเดิมเลยทีเดียว
อนิเมชั่นยอดฮิตที่เมื่อเอ่ยชื่อเรื่องแล้วหลายคนต้องนึกออกอย่างแน่นอน กับเรื่องราวสุดป่วงของสัตว์ยุคน้ำแข็ง
อนิเมชั่นวัยเด็ก ที่กลับมาให้ทุกคน ได้คิดถึงวัยเด็ก และได้หายคิดถึงเหล่าตัวละคร ของเรื่องนี้ กันอีกครั้งกับเรื่อง THE ICE AGE ADVENTURES OF BUCK WILD ภาคแรกสำหรับเรื่องนี้ ฉายครั้งแรก เมื่อปี 2002 ระยะเวลาตั้งแต่การฉายภาคแรก จนมาถึงภาคนี้
ก็นับเป็นภาคที่ 6 แล้ว โดยรวมแล้วก็ผ่านไป 20 ปีแล้ว ที่เราได้อยู่ กับอนิเมชันเรื่องนี้มา เชื่อว่าสิ่งที่ทุกคนจดจำได้ดี ในนามของ Ice Age คงเป็นกระรอกมหาประลัยแน่ ๆเรียกได้ว่าเป็น อนิเมชั่นซิกเนเจอร์ ของเรื่องเลยก็ว่าได้ แต่การกลับมาในครั้งนี้ จะไม่มีกระรอกเจ้าตัวป่วนอีกต่อไป
ถ้าใครจำได้ในภาค 5 เจ้ากระรอกได้ขับยาน ไปชนและอยู่บนดาวอังคารแล้วเรียบร้อย ในครั้งนี้เป็นเรื่องราว การผจญภัยยุค ก่อนประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มี ซิด แมนเฟรด ดีเอโก และ เอลลี่ เป็นตัวละครหลัก แต่จะเน้นไปที่การผจญภัยของ แครช เอดดี้ สองพี่น้อง
พอสซั่ม และเจ้าบัค วีเซิล นักล่าตาเดียว มาเป็นตัวหลัก ดำเนินเรื่องการผจญภัยใน LOST WORLD หรือดินแดนสาบสูญ ภายใต้น้ำแข็ง ในการดำเนินเรื่อง ก็ยังมีมุขตลกตามสไตล์ Ice Age ให้เราสนุกดูกันเพลิน ๆ ตลอดเรื่องไปเลย
เรื่องราวของเวทมนตร์สุดคลาสสิค ที่ครองใจผู้ชมอย่างมากมายจากค่ายดิสนีย์
อนิเมชั่นเรื่องนี้ จะเล่าถึงการใช้ชีวิตชาวโคลอมเบีย ของครอบครัวมาดริกัล ที่ต้องอพยพ ย้ายถิ่นฐาน ด้วยเหตุการณ์ สงครามกลางเมืองที่ผู้คนต่าง ก็ต้องเอาชีวิตให้รอด และในช่วงเวลาที่คุณปู่ ของครอบครัวมาดริกัล ได้เสียสละชีวิต ของคุณยายอาบัวล่า และได้ค้นพบเทียนมหัศจรรย์ ที่ช่วยดลบันดาล บ้านหลังใหญ่ ที่เต็มไปด้วย
มนต์มหัศจรรย์ ให้ครอบครัวมาดริกัล มีลูกหลานที่มีพลังพิเศษ ยกเว้นแต่มิราเบล หลานสาวคนเดียว ที่ไม่มีพลังพิเศษใด ๆ แต่แล้ววันหนึ่ง ขณะทุกคนกำลัง เฉลิมฉลอง พิธีรับพร ที่ได้พลังพิเศษ ของหลานชาย ตัวน้อยมิราเบล ก็ได้รู้ความจริงว่า เวทมนตร์ที่เหมือน พรพิเศษ ของครอบครัวมาดริกัลของเธอ กำลังจะหมดลง
เธอจึงพยายาม หาทุกวิถีทาง ทำทุกอย่าง เพื่อกอบกู้ครอบครัว และบ้านของเธอ หากมองผิวเผิน ‘ Encanto ’ ก็แทบจะมีพล็อตเรื่อง ที่ไม่ได้แตกต่างจาก อนิเมชันสไตล์ดิสนีย์ เหมือนที่ผ่าน ๆ มา อันว่าด้วยเด็กสาว ที่ค้นพบความพิเศษ ในตัวเอง ที่ดิสนีย์พยายามที่ จะโปรโมตจุดนี้ มาโดยตลอด
โดยเฉพาะผลงานระดับ ปรากฎการณ์โลก อย่าง ‘Frozen’ แต่สิ่งที่ทำให้มันพิเศษขึ้นมา นั่นก็คือการนำเรื่องราว ที่คุ้นเคยมาอยู่ในบริบท ของสังคมการเมือง ของโคลัมเบีย หนึ่งในประเทศที่มี ความขัดแย้ง และสงครามกลางเมือง จนติดอันดับประเทศ ที่มีการย้ายถิ่นฐาน มากที่สุดในโลก
อนิเมชั่นจากค่าย DISNEY ที่เจ้าหญิงของเรื่องนั้นเป็นชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแนวของกาตูนนั้นก็มีความย้อนยุคน่าติดตามมาก
หากเราลองสังเกตดู จะพบว่าอนิเมชั่น ของดิสนีย์ในยุคหลัง ๆ มานี้ มีการปรับตัวให้เข้า กับยุคสมัยในหลาย ๆ ด้าน เช่น การสร้างตัวละครเอก ที่ non-white และสตอรี่เรื่องราว ต่าง ๆ ที่ไม่ได้มาใน รูปแบบตะวันตก แบบดิสนีย์ยุคก่อน ๆ Soul ที่ตัวเอก เป็นชายอเมริกัน ผิวสีเชื้อสายแอฟริกัน, Coco ที่มีความเม็กซิกัน แทบ 100% เลยที่เดียว
และล่าสุดก็อนิเมชั่นที่ดิสนีย์ สร้างในยุค COVID-19 อย่าง RAYA AND THE LAST DRAGON ซึ่งเป็นครั้งแรก ของดิสนีย์ที่ให้ตัวละครเอก และภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ เพราะโดยปกติแล้ว เวลาพูดถึงเอเชีย คนต่างชาติก็จะ นึกถึงแต่จีน ญี่ปุ่น หรือเกาหลี ซึ่งเป็นกลุ่มเอเชียตะวันออก
กันเสียส่วนใหญ่ RAYA AND THE LAST DRAGON เรื่องนี้จะเล่าถึงเรื่อง ที่เกิดขึ้นในดินแดน Kumandra ซึ่งเป็นเสมือนภูมิภาค Southeast Asia แต่ทว่าไม่ได้ มีการแบ่งแยก พรมแดนเป็นประเทศ ๆ อย่างที่พวกเราคุ้นเคย แต่แบ่งเป็นชื่อเผ่า ตามชื่อส่วนต่าง ๆ ของมังกร ได้แก่ Fang (เผ่าเขี้ยว)
Talon (เผ่ากรงเล็บ), Spine (เผ่าสันหลัง), Tail (เผ่าหาง), และ Heart (เผ่าหัวใจ) ทีมงานของเรื่องนี้ มีความเข้าใจพื้นฐาน และมีการรีเซิชข้อมูล เกี่ยวกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นี้มาอย่างดี ทั้งด้านภูมิศาสตร์ สถาปัตยกรรม ทำให้เรื่องนี้ กลายเป็น อนิเมชั่นแนวแปลกใหม่ เลยทีเดียว